การลดอิทธิพลจากนิยาย - ภาพยนตร์เรื่องอื่นในนิยายของเรา - การลดอิทธิพลจากนิยาย - ภาพยนตร์เรื่องอื่นในนิยายของเรา นิยาย การลดอิทธิพลจากนิยาย - ภาพยนตร์เรื่องอื่นในนิยายของเรา : Dek-D.com - Writer

    การลดอิทธิพลจากนิยาย - ภาพยนตร์เรื่องอื่นในนิยายของเรา

    บางครั้ง เราติดค่านิยมผิดๆ ที่ว่า นิยายแนวนี้ ต้องเป็นแบบนี้ๆ นั่นแหละ ! คือสาเหตุที่ทำให้นิยายของเราเหมือนเรื่องของคนอื่นโดยไม่รู้ตัว

    ผู้เข้าชมรวม

    3,696

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    3.69K

    ความคิดเห็น


    46

    คนติดตาม


    11
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  11 มี.ค. 49 / 03:07 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ทำอย่างไรจึงจะเขียนนิยายได้อย่างเป็นตัวของตัวเอง

      เคยมีกระทู้  อิทธิพลกับการลอกเลียนแบบ  เกิดขึ้นเมื่อนานมาแล้วในเว็บไซต์  เจเจบุ๊คส์

      ( เป็นกระทู้หนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก )  ซึ่งไม่นานมานี้  กรได้ค้นพบ

      วิธีการลดอิทธิพลจากนิยายเรื่องอื่นๆ ในนิยายของเรา  ซึ่งลองใช้แล้ว

      ได้ผลทีเดียว  จึงอยากเอามาฝากพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ นักเขียนชาวเด็กดี



      พอดีภาคเรียนนี้  ที่มหาวิทยาลัย  มีการสอนวิชา  มนุษย์กับการใช้เหตุผลและจริยธรรม

      มีบทเรียนหนึ่ง  ชื่อบท  รู้จักเจาะข่าวสาร  สอนถึงวิธีการวิเคราะห์สารจากสิ่งต่างๆ



      ในหนังสือ  มีบทความอ่านประกอบเรื่อง  แล้วเราก็รักกัน ... ในโฆษณา  เขียนโดย  นิธิ  เอียวศรีวงศ์



      บทความนี้  พูดถึง  สารแฝงในโฆษณา  ซึ่งเป็นสิ่งที่เรารับมาโดยที่ไม่รู้ตัว

      บทเรียนบทนี้  สอนให้เราแยก  สารแฝง  ออกจาก  สารเท็จจริง



      ถ้านำมาประยุกต์ใช้กับ  การเขียนนิยาย  แล้ว  เป็นสิ่งที่ดีมากทีเดียว !



      ในบทความดังกล่าว ...  บอกว่า  โฆษณา  

      ให้สารแฝงบางอย่าง  ทำให้เราเข้าใจไปตามนั้นว่าเป็นอย่างนั้น

      กรว่า  นิยาย / ภาพยนตร์  ก็เหมือนกัน  

      ให้สารแฝงบางอย่าง  ทำให้เราเข้าใจไปตามนั้นว่าเป็นอย่างนั้น



      เช่น  โฆษณาบัตรเครดิต  ทำให้เราคิดไปเองว่า  นักธุรกิจต้องพกบัตรเครดิต  ไม่พกเงินสด

      นิยายแฟนตาซี  ก็ทำให้เราคิดไปเองว่า  โลกของแฟนตาซีต้องมีเวทมนตร์  ต้องมีจอมมารจะยึดอำนาจ  แล้วเหล่าคนดีต้องออกมาปกป้อง



      โฆษณาผงซักฟอก  ทำให้เราคิดไปเองโดยไม่รู้ตัวว่า  การใช้ผงซักฟอกนั้น  ทำ ให้ครอบครัวรักใคร่ปรองดองกัน  ( เพราะจะมีพ่อแม่ลูกออกมาซักผ้ากันพร้อมหน้า  ทั้งที่ความเป็นจริง  

      ถึงเวรใครคนนั้นก็ซัก )

      นิยายโรแมนติก  ก็ทำให้เราคิดไปเองว่า  พระเอกต้องหล่อเนี้ยบเงียบขรึมเท่   นางเอกก็เฉิ่มๆ ซุ่มซ่าม  ติ๊งต๊อง  เมื่อทำอะไรเปิ่นๆ  พระเอกต้องมาเห็นตลอด



      โฆษณาลูกอม  ทำให้เราคิดไปเองว่า  ถ้าอมลูกอมยี่ห้อนี้  จะซ่า  จะเท่

      นิยายรักวัยรุ่น  ทำให้บางคนคิดว่า  การใส่  ^-^ , T-T , -_-"  ทำให้นิยายดูทันสมัย  เท่  



      ฯลฯ



      ดังนั้น ... ถ้าเรารู้จักแยกแยะว่า  อะไรคือความหมายของนิยายแต่ละประเภท  

      อะไรคือความเข้าใจแฝงที่ติดมากับนิยายประเภทนั้นว่าต้องเป็นอย่างนั้น  

      เมื่อเราค้นพบความเข้าใจแฝง  แล้วลองคิดหาสิ่งอื่นที่ไม่เหมือนใครเข้าไปแทนที่  

      ก็จะทำให้นิยายของเรา   เป็นนิยายของเราเอง  เป็นการลดอิทธิพล

      จากนิยาย - ภาพยนตร์เรื่องอื่นให้ออกไป  หรือ  เหลือน้อยที่สุดในนิยายของเรา



      ขอขอบคุณ



      ผู้ให้กำเนิด  วิชา  มน102  มนุษย์กับการใช้เหตุผลและจริยธรรม  ในมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

      และคุณนิธิ  ผู้เขียนบทความ  แล้วเราก็รักกัน  ..  ในโฆษณา

      ทำให้กรได้เกิดความคิดดีๆ  เกี่ยวกับการลดอิทธิพลจากนิยายเรื่องอื่นครับ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×